จำนวนผู้เข้าชม : 2553

ขนมไทย


  • ขนมต้ม   :  ขนมต้ม เป็นขนมไทยที่มีมาแต่โบราณ ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ รสหวาน หอมกลิ่นมะพร้าว เหนียวนุ่มละมุนลิ้น ตรึงใจคนไทยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งขนมต้มอยู่คู่วัฒนธรรมไทยมายาวนาน มีความเกี่ยวข้องกับงานมงคลต่าง ๆ มากมาย
  •   
  • ประวัติความเป็นมาของขนมต้ม    :   ขนมต้มเป็นขนมที่มีหลักฐานว่ามีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย เข้ามาพร้อมกับศาสนาพราหมณ์และลัทธิความเชื่อเกี่ยวกับเทพเจ้า โดยเชื่อกันว่าพระพิฆเนศโปรดขนมนี้มาก ครั้งหนึ่งเสวยเข้าไปจนเต็มพุง เมื่อขี่หนูกลับวิมาน ระหว่างทางหนูมาเจองู ตกใจจึงหยุดทันที พระพิฆเนศตกจากหลังหนู พุงแตก พระพิฆเนศเสียดายขนมจึงกอบเข้าใส่พุงใหม่แล้วเอาซากงูที่ตีตายแล้วมาพันพุงไว้ แล้วจึงกลับไปวิมานต่อมาได้มีบทบาทสำคัญในพิธีบวงสรวงเทวดา ในพิธีกรรมต่างๆ เช่น ยกเสาเอก ตั้งศาลพระภูมิ ในประเพณีสู่ขอแต่โบราณในบางท้องที่ใช้ขนมต้มด้วย ดังมีเพลงพวงมาลัยร้องเล่นว่า
  •         โอ้ละเหยลอยมา                        ลอยมาแล้วก็ลอยไป
     พ่อแม่ท่านเลี้ยงมายาก                 จะกินขันหมากให้ได้
                 ไม่ได้กินหนมต้มอมน้ำตาล            น้องไม่รับประทานของใคร
              พวงเจ้าเอ๋ยมาลัย                          ถอยหลังกลับไปเถิดเอย
  • ขนมต้มแดง   :   ลักษณะเมื่อทำเสร็จแล้วจะเป็นสีแดง วัตถุดิบ เครื่องปรุงจะใช้แป้งกดให้แบน แล้วนำมาคลุกกับมะพร้าวและน้ำตาลปี๊บ เคี่ยวรวมกันจนเป็นสีแดง แบบนี้จะไม่มีไส้ กัดเข้าไปก็หวานหอมอร่อยทันทีไม่ต้องรอลุ้น
  • ขนมต้มขาว   :   ลักษณะเมื่อทำเสร็จแล้วจะเป็นสีขาว โดยจะนำแป้งข้าวเหนียวมาปั้นให้เป็นก้อนกลม ๆ ยัดไส้เข้าไป ซึ่งไส้ข้างในก็จะมีวัตถุดิบ เครื่องปรุงที่ทำจากมะพร้ามกับน้ำตาล จากนั้นก็จะนำไปต้มให้แป้งสุก เวลาจะรับประทานก็จะมีการโรยด้วยมะพร้าวขูดอีกครั้ง เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ เมื่อกัดเข้าไปก็จะได้รสสัมผัสที่นุ่มละมุนของแป้งที่อยู่ด้านนอกและความหวานลิ้นจากไส้มะพร้าวเคี่ยวน้ำตาลที่อยู่ด้านใน
  •       ขนมทั้ง 2 แบบนี้มักจะทำคู่กันเพื่อใช้ในงานมงคลและงานบวงสรวงต่าง ๆ คนไทยมักจะไม่ทำแยกแบบเดียว แต่หากจะทำขนมต้มไว้รับประทานเองเลือกทำแบบเดียวก็ได้ ทุกวันนี้ขนมต้มที่ยังมีให้เห็นกันตามตลาดส่วนมากจะเป็นขนมต้มขาว มีไส้ คลุกมะพร้าว แต่ขนมต้มแดงอาจจะหาได้ยากหน่อย นอกจากในพิธีมงคล เช่น พิธีไหว้ครู พิธีบวงสรวง พิธีตั้งศาลพระภูมิ หรือพิธีไหว้พระพิฆเนศ ก็จะได้เห็นทั้งขนมต้มขาว และขนมต้มแดงกันบ้าง
  • ขนมต้มขาว
  • ส่วนผสม
        - ขูดทึนทึก(ผัดไส้) 500 กรัม
        - มะพร้าวขูดทึนทึก(คลุกข้างนอก) 500
        - น้ำตาลมะพร้าว 500 กรัม
        - น้ำใบเตย(สำหรับผัดไส้)
        - เกลือ 1/2 ช้อนชา
        - แป้งข้าวเหนียว 500 กรัม
        - น้ำกะทิ 1 ถ้วย (ผสมแป้ง และผัดกับไส้)
        - น้ำใบเตยคั้นสด(ทำแป้งใบเตย) 1 ถ้วย
  • วิธีทำ
    ขั้นตอนที่ 1 : ทำแป้ง+ทำไส้
        - ผัดไส้ โดยใส่ มะพร้าวขูด น้ำตาลปีบ เกลือ น้ำกะทิ น้ำใบเตย ในกระทะ แล้วเคี่ยวไฟอ่อนๆ กวนไปเรื่อยๆ จนมะพร้าวแห้ง ไม่ติดกระทะ ไส้มะพร้าวสุกดีแล้วก็ ยกลงมาพักไว้ให้เย็น
        - นำแป้งข้าวเหนียวใส่ชาม เติมน้ำใบเตย และกะทิลงไป นวดให้เข้ากัน ให้แป้งนิ่มๆ
  •   
  • ขั้นตอนที่ 2 ห่อ+ต้ม
        - ไส้ขนมต้มเย็นลงแล้ว ก็ปั้นเป็นลูกเล็กๆเตรียมไว้
        - ตั้งหม้อให้น้ำเดือด จากนั้นนำแป้งมาห่อไส้ขนมต้มที่เตรียมไว้ ปั้นเป็นกลมๆ จากนั้นใส่ลงไปในหม้อน้ำเดือด เมื่อขนมต้มสุกแล้ว ให้สังเกตว่ามันจะลอยขึ้นมาเอง
        - นำขนมต้มที่สุกแล้วมาคลุกกับมะพร้าวขูดที่เตรียมไว้
  •   
  • ขนมต้มแดง
  • ส่วนผสม
        - แป้งข้าวเหนียว 220 กรัม
        - น้ำลอยดอกมะลิ 100 มิลลิลิตร
         - มะพร้าวทึนทึกขูดเส้น 150 กรัม
        - น้ำตาลมะพร้าว 200 กรัม
        - เกลือ 1 ช้อนชา
        - น้ำเปล่า 50 มิลลิลิตร
  • วิธีทำ
    ขั้นตอนที่ 1 : ปั้นแป้ง
        - ค่อย ๆ เทน้ำลงไปนวดกับแป้งข้าวเหนียวจนสามารถปั้นเป็นก้อนได้
        - แบ่งปั้นเป็นก้อนขนาดเท่า ๆ กัน จากนั้นแผ่ให้เป็นแผ่น แล้วกดรูตรงกลาง
        - ตั้งน้ำให้เดือดแล้วนำแป้งลงไปต้มจนสุก ตักขึ้นพักไว้
  •   
  • ขั้นตอนที่ 2 : ผัดไส้กระฉีก
        - ใส่น้ำตาลปี๊บ เกลือ และน้ำเปล่าเล็กน้อยลงไปเคี่ยวจนทุกอย่างละลายเข้ากัน
        - ใส่มะพร้าวทึนทึกขูดเส้นลงไปผัดจนทุกอย่างเข้ากัน จากนั้นใส่แผ่นแป้งต้มที่พักไว้ลงไปผัดจนไส้กระฉีกคลุกเคล้าจนทั่วแผ่นแป้ง
  •   


  • คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี
    321 ถ.นารายณ์มหาราช ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง จ.ลพบุรี 15000 โทรศัพท์ 036-422125 FAX 036-422125